ทักษะสำหรับโลกอนาคตหรือโลกแห่งศตวรรษที่ 21
ทักษะที่มนุษย์ต้องปรับตัวให้กับความสามารถที่เพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โดยเฉพาะเด็กที่ต้องก้าวให้ทันโลกในอนาคตโลกเดิมๆ ความรู้เดิมๆจะใช้ไม่ได้แล้ว เราต้องมีทักษะโลกแห่งอนาคตหรือทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เช่น ที่เราเคยเรียนมาดาวเคราะห์มีทั้งหมด 9 ดวง แต่ปัจจุบันปรากฎว่าดาวพลูโตถูกลดฐานะเป็นดาวเคราะห์แคระ แล้วในเวลาเดียวกันก็มีดาวที่คล้ายดาวพลูโตโผล่ออกมาอีก 4 ดวง และคาดว่าจะพบอีกเป็นหมื่นๆดวง เพราะฉะนั้นความรู้ท่องจำว่าที่ระบบสุริยจักรวาลมีดาวเคราะห์ 9 ดวง จะเป็นความรู้ที่ล้าสมัยกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มนุษย์ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับงานที่ยังไม่มีโดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิดเพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ในศตวรรษที่ 21 การเรียนแบบท่องจำและการเรียนเพื่อรู้แต่ข้อมูล (information) เพียงอย่างเดียวจะมีประโยชน์น้อยลงทุกที หรือเรียกได้ว่า ความรู้จาก 1i ไม่เพียงพอ แต่ต้องปรับเป็น 4i คือ
1. Imagination (จินตนาการ) คือ การสร้างภาพขึ้นในใจ
2. Inspiration (แรงดลใจ) คือ สิ่งที่ทำให้มีแรงขับเคลื่อน
3. Insight (ความเข้าใจลุ่มลึก) คือ รู้อย่างลึกซึ้ง
4. Intuition (ญาณทัศน์ การหยั่งรู้) คือ ความรอบรู้ชัดเจน สามารถรู้ได้อัตโนมัติ
ทักษะโลกแห่งอนาคตหรือทักษะในศตวรรษที่ 21 จะต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
1. Attitude (ทัศนคติ+อุปนิสัย) ต้องสอนให้เด็กคิดสร้างสรรค์ใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง
2. Skill (ทักษะ) ต้องสอนให้เด็กสื่อสารเก่งและมีความอดทน
3. Knowledge (ความรู้) สอนให้เด็กคิดเชิงวิพากษ์และเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
การศึกษาในโลกอนาคตต้องมีการเปลี่ยนแปลงคือเปลี่ยนไปสู่การเรียนรู้โดยผู้เรียนมีบทบาทมากขึ้นหรือ Active Learning ไม่ใช่ผู้สอนเป็นศูนย์กลางเพราะวิจัยพบว่าการสอนแบบบรรยายและจดแลคเชอร์จะมีความรู้จากการเรียนรู้แบบนี้ไม่เกิน 20% แต่ถ้าเด็กเรียนรู้ด้วยการเล่นจะมีความรู้เพิ่มขึ้นเป็น
20-75% และวิธีที่ดีที่สุดคือ การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติเองจะสามารถมีความรับรู้และเกิดความเข้าใจมากกว่า 75% เพราะฉะนั้นการเรียนจึงต้องเปลี่ยนจากการฟังเป็นการลงมือปฏิบัติเองแบบที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
สรุป
โลกใบใหม่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว เราต้องเตรียมทำงานที่ยังไม่มีอยู่ในวันนี้ ใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด แก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ เด็กยุคต่อไปจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องและการที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องได้นั้นต้องฝึกทักษะการเรียนรู้จากการกระทำ ทำให้เรียนรู้แล้วเข้าใจเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ต่อไป ถ้าไม่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องความรู้ที่มีอยู่ก็จะล้าสมัยอย่างรวดเร็ว
อ้างอิง
https://tdri.or.th/2017/12/thinkx2-225/
https://www.youtube.com/watch?v=qWTpnlOYcrY
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น